ข่าวสารบริษัท
แรบบิท โฮลดิ้งส์ ในกลุ่ม บีทีเอส กรุ๊ปฯ ผนึกกำลังพันธมิตรใหญ่ จับมืออนันดาฯ เปิดตัวเวิลด์คลาสเรสซิเดนซ์ THE RESIDENCES 38 โดยมี ดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด เป็นผู้บริหารงาน ลักชัวรี่เซอร์วิส เรสซิเดนซ์ La Clef Bangkok by The Crest Collection
บริษัท แรบบิท โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ในกลุ่มบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ได้ลงทุนในโครงการเดอะ เรสซิเดนเซส 38 (THE RESIDENCES 38 ) โครงการระดับ World Class Residence ตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุดของประเทศไทย ติดกับรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีทองหล่อ ใจกลางกรุงเทพฯ ประกาศแต่งตั้ง บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้บริหารโครงการตั้งแต่การก่อสร้าง การพัฒนาโครงการ การวางแผนด้านการขาย และการตลาดทั้งหมดของโครงการ พร้อมแต่งตั้ง ดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด เป็นผู้บริหารงานเซอร์วิสเรสซิเดนซ์ La Clef Bangkok by The Crest Collection ซึ่งเป็นเซอร์วิส เรสซิเดนซ์หรูระดับสูงสุดของแอสคอทท์ ถือเป็นการผนึกพันธมิตรครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด และเป็นการต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ รวมทั้งเสริมศักยภาพในการขยายธุรกิจให้แข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนในอนาคต
นายกวิน กาญจนพาสน์ กรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการ บริษัท แรบบิท โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการเดอะ เรสซิเดนเซส 38 (THE RESIDENCES 38) เป็นการลงทุนโดย แรบบิท โฮลดิ้งส์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนในธุรกิจบริหารและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ผ่านการร่วมมือกับพันธมิตรที่โดดเด่นทางกลยุทธ์ทั้งด้านแบรนด์และการตลาด ถึงแม้ว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่เหลือของปี 2566 จะเผชิญกับความท้าทาย แต่ยังมีปัจจัยบวกอยู่อีกมากโดยเฉพาะการกลับเข้ามาซื้อที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติในกลุ่มคอนโดมิเนียม จากการเริ่มฟื้นตัวของสภาพตลาด แรบบิท โฮลดิ้งส์ จึงได้ดำเนินการพัฒนาโครงการเดอะ เรสซิเดนเซส 38 (THE RESIDENCES 38) ภายใต้การให้บริการของผู้บริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเชี่ยวชาญและความเป็นมืออาชีพ
โดยมีการลงนามแต่งตั้งบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้บริหารโครงการตั้งแต่การก่อสร้าง การพัฒนาโครงการ การวางแผนการขายและการตลาดทั้งหมดของโครงการ สำหรับความร่วมมือกับอนันดาฯ ในครั้งนี้ ถือเป็นการช่วยเพิ่มศักยภาพการพัฒนาธุรกิจของแรบบิท โฮลดิ้งส์ อีกทั้งยังช่วยขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศจากเครือข่ายลูกค้าที่แข็งแกร่งและหลากหลายของอนันดาฯ ทั้งนี้ แรบบิท โฮลดิ้งส์ ยังได้แต่งตั้งให้ ดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด เป็นผู้บริหารงานเซอร์วิสเรสซิเดนซ์ La Clef Bangkok by The Crest Collection ซึ่งเป็นเซอร์วิสเรสซิเดนซ์หรูระดับสูงสุดของแอสคอทท์
แบรนด์ The Crest Collection เปิดตัวครั้งแรกในปี 2559 ที่ประเทศฝรั่งเศส ประกอบด้วยพอร์ตโรงแรมและเซอร์วิสเรสซิเดนซ์ที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์และมีเอกลักษณ์โดดเด่น เปิดให้บริการไปทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน The Crest Collection มาพร้อมกับแนวคิด “หลังประตูทุกบานมีเรื่องราว” ด้วยการมอบประสบการณ์ที่หรูหราและไม่ซ้ำใครแก่แขกผู้เข้าพัก ผ่านการตกแต่งที่แฝงไปด้วยประวัติความเป็นมาที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโรงแรมและเซอร์วิสเรสซิเดนซ์ในแต่ละแห่ง
สำหรับการเปิดตัวแบรนด์คอลเลกชันในประเทศไทย La Clef Bangkok by The Crest Collection ประกอบด้วยห้องพัก 115 ยูนิต ตั้งแต่ห้องพักแบบสตูดิโอไปจนถึงอพาร์ทเมนท์สองห้องนอน ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการผสมผสานวัฒนธรรมไทย เข้ากับมรดกทางวัฒนธรรมของฝรั่งเศส โครงการนี้ยังมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สระว่ายน้ำ ออนเซ็น เลานจ์ และฟิตเนสเซ็นเตอร์ รวมถึงบริการอื่นๆ ที่ครบครัน เช่น บริการทำความสะอาด บริการซักรีด และบริการเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก นอกจากนี้ บริเวณโดยรอบยังสามารถเข้าถึงศูนย์การค้า ศูนย์กลางความบันเทิงต่างๆ และโรงพยาบาลชั้นนำได้อย่างสะดวกสบาย
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้อนันดาฯ มีแผนเปิดตัว Business Line ใหม่ ซึ่งจะดำเนินงานในรูปแบบของ Professional Services and Management Consultancy รับดำเนินงานบริหาร และพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบ Total Solutions ซึ่งปัจจุบันได้รับความไว้วางใจจากแรบบิท โฮลดิ้งส์ เพื่อบริหารและพัฒนาโครงการเดอะ เรสซิเดนเซส 38 (THE RESIDENCES 38) โครงการระดับ World Class ตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุดของประเทศไทย ใจกลางกรุงเทพฯ ย่านทองหล่อ ซอยสุขุมวิท 38 ติดรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีทองหล่อ พัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยในรูปแบบ Ultra luxury Residence จำนวน 36 ชั้น และชั้นลอย 1 ชั้น โดยชั้น 12 – 23 พัฒนาเป็นเซอร์วิสเรสซิเดนซ์แบบลักชัวรี่ 115 ยูนิต La Clef Bangkok by The Crest Collection บริหารโดย ดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด ในขณะที่ชั้นบนตั้งแต่ชั้น 24 – 36 เป็นคอนโดมิเนียมที่พักอาศัยจำนวน 56 ยูนิต รูปแบบห้องพักคอนโดมิเนียมมีตั้งแต่ 1 Bedroom ไปจนถึง เพนท์เฮ้าส์ (Penthouse) ซึ่งจะเป็นที่สุดของความร่วมมือสำหรับการพัฒนาที่อยู่อาศัยในแบบ Residence ของประเทศไทย